วิจัยชี้เยาวชนสูบ "บุหรี่ไฟฟ้า-สารสกัดจากกัญชา" เกินครึ่งเกิดวิตกกังวล ซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย
วิจัยชี้เยาวชนสูบ "บุหรี่ไฟฟ้า-สารสกัดจากกัญชา" เกินครึ่งเกิดวิตกกังวล ซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผอ.ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า จากบทความการประชุมวิชาการของ American Heart Association Epidemiology, Prevention,
Lifestyle & Cardiometabolic Health Scientific Sessions 2023 ระบุถึงการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างการสูบไอบุหรี่ไฟฟ้ากับอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในกลุ่มเยาวชน สำรวจทางออนไลน์ในอาสาสมัครอายุ 13-24 ปี โดยสมาคมโรคหัวใจอเมริกัน มีกลุ่มตัวอย่าง 1,921 คน ซึ่ง 562 คนไม่เคยสูบ มี 370 คนเคยสูบแต่ไอนิโคติน และ 159 คนเคยสูบไอ THC ซึ่งเป็นสารที่พบในกัญชา และอีก 830 คนเคยสูบไอทั้งคู่
ข้อมูลพบว่า 60% ของผู้ที่สูบไอ มีอาการวิตกกังวล และมากกว่า 50% ของผู้สูบไอ มีภาวะซึมเศร้า ที่น่าเป็นห่วงคือ มากกว่า 50% ของผู้สูบไอทั้งหมดมีความคิดฆ่าตัวตายภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นที่น่าตกใจว่า มีผู้ที่สูบไอทั้งคู่มากถึง 2 เท่าของผู้ที่สูบไอนิโคตินเพียงอย่างเดียว สอดคล้องกับรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 ปี 2562-2563 พบว่า 53% ของวัยรุ่นไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีภาวะซึมเศร้า
"ผลการศึกษาเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพจิตในผู้ที่ใช้ไอนิโคตินและไอ THC จึงจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการรณรงค์และให้ความรู้เพื่อเพิ่มความเข้าใจกลุ่มเยาวชนถึงความเสี่ยงของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและกัญชา” ผศ.นพ.วิชช์ กล่าว
ผศ.นพ.วิชช์กล่าวว่า เยาวชนและผู้ปกครอง ควรรู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้าและกัญชา ลำพังการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีอันตรายจากนิโคตินที่มีฤทธิ์เสพติดสูงและมีสารเคมีอันตรายหลายชนิดที่ทำลายสมองของเด็ก มีสารก่อมะเร็งที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต การนำกัญชามาใช้ร่วมกับบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งก่ออันตรายเป็นเท่าตัว ส่งผลออกฤทธิ์ต่อจิตประสาททำให้มีถึงความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ถึงขั้นมีความคิดฆ่าตัวตายได้