ผู้นำสิงคโปร์ชี้ "บุหรี่ไฟฟ้า" เป็น "ปัญหายาเสพติด"
นายกรัฐมนตรี ลอร์เรนซ์ หว่อง กล่าวในการปราศรัย เนื่องในวันชาติสิงคโปร์ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า “จนถึงตอนนี้ เราถือว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเหมือนยาสูบ อย่างมากก็แค่ปรับ แต่แค่นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป ทางการจะกำหนดบทลงโทษ “ที่รุนแรงมากขึ้น” ซึ่งรวมถึงโทษจำคุกและโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับผู้ที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารอันตราย รวมถึงจะมีการ “ขับเคลื่อนการศึกษาสาธารณะครั้งใหญ่” โดยเริ่มต้นในโรงเรียน สถาบันการศึกษาระดับสูง และในช่วงที่รับราชการ
โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้นำในการดำเนินการนี้ และนอธิบายว่าเป็น “การดำเนินการอย่างเข้มแข็งของรัฐบาลทั้งประเทศ”
นายกรัฐมนตรี ลอร์เรนซ์ หว่องกล่าวว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในความกังวลที่สำคัญ โดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะถูกห้าม แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงถูกลักลอบนำเข้า บุหรี่ไฟฟ้าหลายชนิดมีสารเสพติดและสารอันตราย รวมถึงอีโทมิเดต (etomidate) ซึ่งเป็นยาชาออกฤทธิ์เร็ว อาจเป็นอันตรายได้หากใช้นอกเหนือการควบคุมทางการแพทย์” (ข่าว)”
หมายเหตุ
“บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน ” เป็นประเด็นที่เครือข่ายธุรกิจ ยกขึ้นมาเย้ายวนสังคม เพื่อส่งเสริมให้คนสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยังไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นจริง
ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากกำไรจากการขายบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียใดๆที่เกิดขึ้นกับสังคม อาทิเด็กและเยาวชนเข้ามาเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจเสพติดไปตลอดชีวิต ติดบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมยาเสพติด การรักษาเยาวชนที่เสพติดให้เลิก หรือการรักษาคนที่ป่วยจากบุหรี่ไฟฟ้า
คณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องคิดให้มาก คิดให้รอบ คิดให้มากกว่า ” บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย หรือ ไม่ปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา“ ตามที่ภาคธุรกิจเขาชี้นำ
ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ 18 สิงหาคม 2569
อ้างอิง https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/254972